ทุกที่มี design by Designtantarn

พบกับเรื่องราวของงาน design ใน http://designtantarn.wordpress.com

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

จากมุมโลกหนึ่งสู่อีกมุมโลกหนึ่ง



สวัสดีพี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลายครับ วันนี้เป็นวันเริ่มต้นทำงานวันแรกของอาทิตย์นี้ หวังว่าท่านจะมีความสุขในการทำงานนะครับ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาผมว่าหลายท่านคงจะเคยได้ข่าวเกี่ยวกับไข้หวัดหมูหรือที่ปรับปรุงชื่อใหม่ว่าไข้หวัด2009 กันว่าจุดแรกเริ่มที่แพร่ระบาดนั้นอยู่ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งหากลองนึกตามแผนที่โลกแล้วจะห่างจากประเทศไทยถึงครึ่งโลกเลย ตอนนั้นหลายท่านคงคิดเช่นเดียวกับผมว่าอยู่ตั้งไกลคงจะระบาดมาไม่ถึงบ้านของเราเป็นแน่ แต่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกกลมๆของเรา ปรากฏว่าหลังจากมีข่าวครั้งแรกประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมาตอนนี้เชื้อดังกล่าวได้ระบาดเข้ามาสู่สยามประเทศของเราสถิติตอนที่เขียน blog นี้ติดเชื้อแล้วกว่า 150 คนแล้วครับจากที่พบเจอคนไทยคนแรกที่ติดเมื่อ เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน ทำให้เราต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองและหน่วยงานที่เกี่ยวขน้องว่าที่ผ่านมาคนที่รับผิดชอบมัวไปทำอะไรอยู่เชื้อถึงได้แพร่มากมายซะขนาดนี้ ผมจำได้ว่ารัฐมนตรีคนที่รับผิดชอบนี้จะหูกางๆหน่อยนะครับ แต่ตอนนี้ไม่เห็นออกมาพูดอะไรเลยมีแต่หน่วยงานสาธารณสุขของสยามประเทศเราที่ออกมาบอกว่า โอ๊ย! ไม่ต้องตกใจไปหรอกครับพี่น้อง ยังไงหวัดนี้ก็หายได้เองครับ เรามีวิธีรับมือได้อยู่แล้ว ในมุมมองของผม ผมว่าหน่วยงานเรา(รวมทั้งผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ)จะเก่งแต่เรื่องแก้ตัวและหลอกตัวเองและสังคมไปวันๆนะครับผมเห็นเมืองนอกเวลาเขาเจอคนไข้ 1 รายเขาแทบจะทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างที่มีเพื่อสกัดและป้องกันการแพร่ระบาดโดยจะสังเกตเห็นใน ทีวีว่าเขาจะจริงจังมาก มีการสวมชุดป้องกัน กักบริเวณและดูอาการอีก ผมเคยได้ฟังการสัมภาษณ์ของผู้อำนวยการ WHO อยู่ช่วงหนึ่งว่าเชื้อนี้จะน่ากลัวตรงที่มันจะกลับมาใหม่อีกทีนั้นแหละครับ (ของต่างประเทศมีคนเสียชีวิตด้วย) จริงอยู่ที่ว่าในประเทศเรายังไม่มีคนเสียชีวิตแต่ในฐานะเราเป็นประชาชนที่อาจด้อยการศึกษา(ที่ถูกปิดบัง) แต่ว่าหากเชื้อนี้กลายพันธ์ละจะว่ายังไง ยิ่งเราเป็นเมืองร้อนด้วยแล้วความรุนแรงอาจเพิ่มเป็นหลายเท่า อย่าลืมนะครับว่าเชื้อนี้เราไม่เคยพบเจอกันมาก่อนถึงแม้ว่าจะมีโครงสร้างทางพันธุกรรมคล้ายหวัดธรรมดาแต่เราจะต้องไม่ประมาทหากมีการเสียชีวิตผมว่าประเทศเราจะรับมือลำบาก (นี้ยังไม่รวมถึงผลกระทบอื่นๆที่จะตามมาอีกนะ) เพราะว่าเป็นโรคใหม่ ไม่งั้น WHO คงจะไม่มีระบบเตือนภัยถึงระดับ 6 หรอกครับ ผมว่าเราต้องช่วยตัวเองไปก่อนแล้วละ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น จะเชื่อหน่วยงานรัฐอย่าเดียวคงจะเชื่อถือลำบาก (เพราะตอนแรกที่พบบอกว่าเราสามารถควบคุมได้แล้ว เห็นมีข่าวว่าหน่วยงานที่เฝ้าระวังในสนามบินจะไม่ตรวจบุคคล Vip ด้วยนี้ครับ) เห็นทีจะต้องอธิฐานจากคุณพระคุณเจ้าแล้วละครับ (จะช่วยได้หรือเปล่า) เฮ้อ โลกปัจจุบันการสื่อสารไร้พรมแดนจริงๆ ถ้าเชื้อโรคนี้มีพาสปอรต์ผมว่าต้องเป็นพาสปอรต์แบบ VIP แน่ๆเลยเพราะผ่านเข้ามาได้ไงไม่รู้เนอะ!พี่น้องเนอะ!...........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณาใช้การแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพแต่รุนแรงในเนื้อหาและข้อมูลจริง