ทุกที่มี design by Designtantarn

พบกับเรื่องราวของงาน design ใน http://designtantarn.wordpress.com

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปรับเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตเปลี่ยนไป


สวัสดีครับ มิตรรักแฟนเพลงวันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆจะมาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังคมรอบข้างเรานี้แหละ อย่างที่ผมอ้างอิงไปในบทความที่แล้วเรื่อง Positive thinking หรือการคิดบวก มองโลกในแง่ดี วันนี้ผมมีเรื่องราวที่ประสบพบเจอ สดๆร้อนๆ มาเล่าครับ คือว่าเมื่อวันก่อนขณะที่ผมนั่งรถเที่ยวดูเมืองหลวงของเราตอนคำคืน (เพราะอยากเห็นแง่มุมชีวิตคนในมุมต่างๆนะครับ ) ปรากฏว่าได้นั่งรถผ่านมาทางถนนรามอินทรา ตรงช่วงแยกลาดปลาเค้า เห็นมีกลุ่มรถมอเตอร์ไซด์กลุ่มใหญ่มากประมาณ 100 คันเห็นจะได้ และมีรถกะบะที่บรรทุกกลุ่มวัยรุ่นอีกหลายคัน กำลังรวมตัวกัน ตอนแรกเข้าใจว่ามีรถชนกันหรือเปล่า แต่พอมองดูดีกลับเห็นว่าเป็นการรวมตัวกัน ปิดถนน เพื่อจัดแข่งรถกัน ห๊า...! ท่านอ่านไม่ผิดหรอกครับ! ปิดถนน ถนนสาธารณะด้วยเพื่อแข่งรถกันเห็นบิดแข่งกันหลายคันเลย ทั้งๆที่ช่วงนั้นเวลานั้นยังมีประชาชนใช้ทางสาธารณะกันอย่างหนาแน่นอยู่ และห่างกันไม่ไกลในช่วง 2 กิโลนั้นมีทั้งหน่วยงานราชการคือค่ายทหาร และที่สำคัญคือสถาณีตำรวจนครบาลบางเขนครับ โห! ช่างกล้ามากหากใครผ่านช่วงเวลานั้นคงจะเห็นเหตุการณ์ดี ซึ่งทำให้ผมคิดว่าบ้านเราเมืองเรานี้เป็นอะไรกันไปหมดแล้ว เห็นคนที่มาแข่งรถผมว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะมีการศึกษามาบ้าง (ประมาณว่าในระดับ อาชีวะหรือมัธยมนะครับ) น่าจะมีความคิดหลายอย่างที่ผมว่าดีกว่านี้นะครับ นี้ขนาดพ่อแม่เรายังจบแค่ ป.4 ยังมีความคิดที่เข้าท่ากว่านี้เลย แต่อย่างว่าละครับจะโทษเด็กอย่างเดียวก็ไม่ได้ (จริงๆก็ไม่ได้เด็กทุกคนเสมอไปหรอกนะครับ) เพราะว่ายุคสมัยและสถานการณ์มันต่างกันนะ P+ อยู่แล้ว เกือบจะเครียดไปกับสถานการณ์ที่เราปรุงแต่งความคิดละ แต่เอ! เราก็มี P+ อยู่แล้วนี้ลองคิดในแง่นี้ไหม จากการที่กลุ่มนี้จะย้ายที่แข่งประจำเราจัดให้เลย สนามบินดอนเมืองเก่า ให้ใช้แข่งเลยจะบิดยัไงก็ได้เชิญตามสบาย แต่ว่าต้องมีหน่วยเก็บศพด้วยนะ เอาไว้ขู่ และมีกฏหมายออกมาเลยว่าถ้าจัดให้แล้วยังไปแข่งขันกันให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนอีก โทษจะหนักมาก ถ้าจับได้ให้ไปกวาดลานบินของสนามบินสุวรรณภูมิเลย ไม่ต้องจับเข้าคุกหรอกเปลืองนำเปลืองไฟหลวงเผลอๆ อาจจะเจอพวกเดียวกันอีกแล้วไม่เข็ดด้วย หากใครมีแววแข่งดีมีฝีมือก็จับมาฝึกให้เป็นมืออาชีพเลยให้เห็นเลยว่าแข่งรถก็มีหลักการนะ และการให้หน่วยงานดูแลก็ไม่ต้องบังคับเขาไปทำประกาศเลยว่าหากหน่วยงานไหนมีความพร้อมหรือเอกชนรายใดสนใจก็ สามารถมาเข้าร่วมได้ ผมว่าถ้าทำอย่างนี้เราก็อย่างน้อยก็แก้ปัญหาสังคมไปได้อีกหนึ่งละ...เป็นไงครับความคิดผม เข้าท่าไหมเอ่ย.........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรุณาใช้การแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพแต่รุนแรงในเนื้อหาและข้อมูลจริง